แนะนำ ยี่ห้อกาแฟโบราณ ยอดนิยม

เอกลักษณ์ของกาแฟโบราณอยู่ที่กรรมวิธีในการชง และการใส่ส่วนผสมจากพืชลงไปในกาแฟ เพื่อเพิ่มรสชาติให้มีความหอมกรุ่นชวนให้หลงใหล ส่วนใหญ่แล้วกาแฟโบราณจะนิยมทานคู่กับอาหารเช้าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นปาท่องโก๋ หรือติ่มซำ ก็ล้วนเติมความอิ่มอร่อยในทุก ๆ เช้าได้อย่างสมบูรณ์ ในวันนี้เราจึงนำ ยี่ห้อกาแฟโบราณ รสชาติเข้มข้นถึงใจมาเสิร์ฟเพื่อน ๆ กัน หากใครอยากดื่มด่ำกับกาแฟโบราณในยามเช้า ตามมาดูกันเลย~ 4 ยี่ห้อกาแฟโบราณ รสเข้มถึงใจ 1. เขาช่อง กาแฟโบราณสูตรโอเลี้ยง สำหรับคอกาแฟโบราณต้องไม่พลาดยี่ห้อกาแฟโบราณ เขาช่อง ที่ผลิตกาแฟโบราณให้อยู่ในรูปแบบซองพร้อมดื่ม ภายในซองอัดแน่นด้วยผงกาแฟโบราณสุดเข้มข้น สามารถชงได้ทั้งน้ำร้อนและน้ำเย็น หากใครชอบดื่มโอเลี้ยงต้องลองไปซื้อมาชงกันดูนะ รับประกันความหอมเข้มเต็มรสกาแฟโบราณไทย 2.ตราขวานทอง สูตรหอมพิเศษ หนึ่งในรสชาติออริจินอลของกาแฟโบราณต้องยกให้ ตราขวานทอง เป็นหนึ่งในยี่ห้อกาแฟโบราณอันดับต้น ๆ ที่มีการผลิตกาแฟมาอย่างนานถึง 6 ทศวรรษ ด้วยเอกลักษณ์ที่หอมเด่นของกาแฟ และรสชาติสุดเข้มถึงใจ ทั้งยังผสมผสานระหว่างกาแฟอราบิก้าและโรบัสต้าได้อย่างลงตัว ที่สำคัญคือกาแฟตราขวานทองไม่ใส่วัตถุกันเสียด้วยนะ แถมซื้อไปแค่ห่อเดียวก็สามารถใช้เป็นเบสในการชงเมนูกาแฟโบราณได้ทุกสูตรเลยนะ 3.Hokee กาแฟโบราณ สูตรโอเลี้ยงปรุงสำเร็จ ใครชอบดื่มโอเลี้ยงหวานเย็นชื่นใจต้องลองกาแฟโบราณสำเร็จรูปรสเข้มข้นอย่าง Hokee กันดู ด้วยรสชาติหอมเข้มของเมล็ดกาแฟแท้ ๆ ที่ไม่ผสมสารปรุงแต่งและวัตถุกันเสีย แถมวิธีการชงก็แสนง่ายดาย เพียงเทหัวเชื้อโอเลี้ยงลงไปในแก้วแล้วตามด้วยน้ำแข็งเย็น […]
แนะนําธุรกิจ แฟรนไชส์ร้านกาแฟ สําหรับคนงบน้อย

ในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำเช่นนี้ ทำให้ปัญหาการว่างงานมากขึ้น แต่อีกหนึ่งในธุรกิจที่ยังอยู่รอดได้ คงหนีไม่พ้นธุรกิจด้านเครื่องดื่มและอาหาร ซึ่งเทรนด์เครื่องดื่มในสมัยนี้ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก สำหรับใครที่เป็นมือใหม่ และอยากลองเปิดธุรกิจ แฟรนไชส์ร้านกาแฟ ดูสักครั้ง วันนี้เราจะมาแนะนำแฟรนไชส์ร้านกาแฟยอดฮิตที่มีรสชาติอร่อยเลิศ โดยใช้งบเริ่มต้นเพียงไม่กี่บาทเท่านั้น 4 แฟรนไชส์ร้านกาแฟ ชื่อดังที่มียอดขายปัง ๆ 1.กาแฟสด Brazil Up Coffee | แฟรนไชส์ร้านกาแฟ งบเริ่มต้น 3,900 บาท มาเริ่มกันที่แบรนด์กาแฟสด Brazil Up Coffee ถือเป็นแฟรนไชส์ร้านกาแฟที่มีราคาย่อมเยา เมื่อซื้อแฟรนไชส์แล้วสามารถวางขายได้ทันที เพราะทางแบรนด์มีคู่มือในการชงสูตรกาแฟให้ถึง 50 สูตร แถมยังไม่เก็บค่าบริการรายปี และไม่เก็บค่าการตลาดด้วย โดยเครื่องดื่มแก้วนึงจะขายกันอยู่ที่ราคา 30-45 บาท หากเพื่อน ๆ สามารถขายได้ถึง 100 แก้วต่อเดือน จะมีรายได้มากถึง 100,000 บาทเชียวนะ ที่สำคัญคุณภาพของกาแฟสดยังให้รสชาติที่เป็นบราซิลแท้ ๆ ด้วย แอบกระซิบว่ารสชาติหอมอร่อยไม่แพ้ร้านกาแฟชื่อดังเลยล่ะ 2.เชค ซี คอฟฟี่ (Shake C […]
แนะนํา กาแฟเพื่อสุขภาพ สําหรับสายเฮลตี้

สำหรับใครที่ชอบออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน หรือเป็นคนที่รักสุขภาพ และกำลังมองหาเครื่องดื่มแคลน้อยสักแก้ว ที่ช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นมากยิ่งขึ้น วันนี้เรามีตัวช่วยดี ๆ อย่าง “กาแฟ” มาฝากทุกคนกัน อย่างที่เราทราบกันดีว่าการดื่มกาแฟแบบเพียว ๆ นั้นจะมีรสชาติที่ขมเป็นหลัก ดังนั้นเราจึงรวบรวมเมนูกาแฟเด็ด ๆ มาฝากสายเฮลตี้กัน ขอบอกเลยว่าเป็นเมนู กาแฟเพื่อสุขภาพ ที่ไม่มีครีมเทียมและน้ำตาลผสมอยู่ด้วย ดังนั้นสายคลีนหรือสายคีโตก็สามารถดื่มได้เช่นกัน 4 เมนูกาแฟเพื่อสุขภาพ เอาใจสายคลีนและสายคีโต 1.อเมริกาโน่ ส่วนผสม : เอสเปรสโซ่ 1 ช็อต + น้ำร้อน ½ ถ้วยตวง เมื่อพูดถึงเบสเริ่มต้นของกาแฟที่ปราศจากน้ำตาลและครีมเทียม ที่ไม่พูดถึงก็คงไม่ได้อย่าง “อเมริกาโน่” เป็น กาแฟเพื่อสุขภาพ ที่มีแคลเลอรี่น้อยที่สุดในบรรดาเมนูกาแฟทั้งหมด หากใครไม่ชอบดื่มกาแฟดำแบบเพียว ๆ เริ่มแรกที่ดื่มอาจจะมีรสชาติขมไปสักหน่อย แต่เมื่อได้ดื่มอเมริกาโน่เป็นประจำทุกวัน รับรองว่าคุณจะต้องติดใจในรสสัมผัสที่เข้มข้นของอเมริกาโน่อย่างแน่นอน 2.กาแฟดำผสมน้ำมะพร้าว ส่วนผสม : เอสเปรสโซ่ 1 ช็อต + น้ำมะพร้าว ½ ถ้วยตวง + น้ำแข็ง […]
เนรมิตผิวกายให้เนียนใสด้วย กากกาแฟ

สำหรับใครที่อยากมีผิวกายที่เนียนใสปิ้ง วันนี้เรามีสูตรสครับผิวดี ๆ มาฝากกัน ซึ่งตัวช่วยสำคัญของเราในวันนี้ คือ กากกาแฟ นั่นเอง หลาย ๆ คนอาจยังไม่รู้ว่ากากกาแฟนั้นมีส่วนผสมสำคัญที่ช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าให้ออกไป และประทินผิวของเพื่อน ๆ ให้มีความเรียบเนียนและผ่องใสมากยิ่งขึ้น เมื่อรู้ถึงคุณประโยชน์ของกากกาแฟแล้ว ตามมาดูเคล็ดลับการสครับผิวให้เนียนใสไปพร้อม ๆ กันเลย สูตรสครับผิวให้เนียนใสด้วย กากกาแฟ 1.กากกาแฟ และผงขมิ้น สำหรับสูตรสครับกาแฟขัดผิวยอดนิยมที่ช่วยเนรมิตผิวกายของเพื่อน ๆ ให้มีความขาวกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น คงหนีไม่พ้นผงขมิ้น ซึ่งเป็นสมุนไพรยอดฮิตในการประทินผิวให้ขาวใส และยิ่งนำมาสครับคู่กับกากกาแฟ ขอบอกเลยว่าผิวสวยมีออร่าขึ้นมาก โดยวิธีการสครับด้วยกากกาแฟ ขัดผิวและผงขมิ้นนั้นก็ไม่ยาก เพียงแบ่งส่วนผสมของกากกาแฟและผงขมิ้นในปริมาณที่เท่า ๆ กัน และผสมน้ำเปล่าเพียงเล็กน้อย แล้วคนทุกอย่างจนเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำมาขัดที่ผิวหน้าและผิวกายอย่างเบามือ แล้วทิ้งไว้ 30 นาที เมื่อล้างออกแล้วให้บำรุงผิวด้วยครีมบำรุงต่าง ๆ เพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น 2.กากกาแฟและเบบี้ออยล์ อีกสูตรหนึ่งที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันนั่นคือ การสครับกาแฟและเบบี้ออยล์ สูตรนี้เหมาะสำหรับคนที่มีผิวอ่อนโยนแพ้ง่ายและมีผิวแห้งกร้าน โดยเบบี้ออยล์นั้นจะช่วยบำรุงล้ำลึกถึงชั้นผิว ทั้งยังช่วยให้การสครับกาแฟไม่บาดผิวง่าย ๆ ด้วย ซึ่งวิธีการสครับกาแฟขัดผิวนั้นก็ง่าย ๆ เพียงนำกากกาแฟผสมเข้ากับเบบี้ออยล์ แล้วขัดวนเบา […]
คลายข้อสงสัย กลิ่นปากจากการดื่มกาแฟ ทำไมดื่มมาก ๆ ถึงมีกลิ่นปาก

เชื่อว่าหลาย ๆ คนในที่นี้คงเคยประสบปัญหามี กลิ่นปากจากการดื่มกาแฟ กันแน่นอน แต่เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมการดื่มกาแฟถึงทำให้เรามีกลิ่นปากได้ แล้วเราจะรับมือกับกลิ่นปากที่เกิดขึ้นได้อย่างไร วันนี้เราจะมาคลายข้อสงสัยที่ทุกคนอยากรู้กัน ถ้าพร้อมแล้วตามมาดูกันเลย กลิ่นปากจากการดื่มกาแฟ เกิดขึ้นได้อย่างไร? เพื่อน ๆ รู้ไหมว่าสารคาเฟอีนในกาแฟนั้น มีส่วนสำคัญที่ทำให้ลมหายใจเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ หรือที่เราเรียกกันว่า กลิ่นปากขึ้นได้ หากเราดื่มกาแฟมากไป จะส่งผลให้ภายในปากของเราแห้งได้ เมื่อปากของเราไม่สามารถผลิตน้ำลายได้มากพอ ปัญหาที่ตามมาคือ การเกิดแบคทีเรียขึ้นในช่องปากของเรานั่นเอง และยิ่งเราทานอาหารเข้าไปแล้วภายในปากผลิตน้ำลายได้ไม่เพียงพอ ก็อาจทำให้เศษอาหารเข้าไปติดตามซอกฟันได้ ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เราเกิดกลิ่นปากขึ้นได้นั่นเอง วิธีแก้ปัญหา กลิ่นปากจากการดื่มกาแฟ 1.ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวัน หากเรามีกลิ่นปากจากการดื่มกาแฟ อย่างแรกที่เราควรให้ความสำคัญเลยคือ การดื่มน้ำให้เพียงพอกับปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน หากเราดื่มน้ำไม่มากพอ อาจทำให้ระบบไหลเวียนภายในช่องปากผลิตน้ำลายออกมาได้น้อย และสิ่งนี้จะเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เรามีกลิ่นปากได้นั่นเอง เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีดับกลิ่นปากที่ใช้ได้ผลโดยไม่ต้องเสียเงินเลยแม้แต่น้อย 2.ดื่มชาร้อนกำจัดกลิ่นปาก จริงอยู่ที่ชาต่าง ๆ อุดมไปด้วยสารคาเฟอีน แต่รู้ไหมว่าในใบชามีสารสำคัญอย่าง ฟลาโวนอยด์ ซึ่งมีฤทธิ์สำคัญในการกำจัดแบคทีเรียที่อยู่ในช่องปากได้เป็นอย่างดี ทั้งยังมีสรรพคุณที่ช่วยให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น หากใครไม่อยากมีกลิ่นปากจากการดื่มกาแฟ การดื่มชาก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่สนใจเลยล่ะ 3.ทานมะนาวช่วยดับกลิ่นปาก ปากเหม็นทำไงดี ? งั้นลองใช้มะนาวกำจัดกลิ่นปากกันดูนะ เนื่องจากมะนาวมีสรรพคุณที่ช่วยดับกลิ่นเหม็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมมะนาวยังอุดมไปด้วยกรดอินทรีย์สำคัญที่ช่วยเสริมการหลั่งน้ำลาย และช่วยย่อยโปรตีนต่าง ๆ ที่อยู่ภายในปากได้เป็นอย่างดี […]
ไขข้อสงสัย เหตุผลที่ กาแฟมีรสชาติเปรี้ยว

โดยปกติแล้วเวลาเราดื่มกาแฟ สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือ กลิ่นหอมอบอวลเตะจมูกและรสชาติที่ขมเข้มเต็มรสกาแฟ แต่รู้ไหมว่านอกจากรสขมแล้ว กาแฟยังมีรสเปรี้ยวถึง 2 รสด้วยกัน คือ รสเปรี้ยวที่เต็มไปด้วยกลิ่นหอมของผลไม้ และรสเปรี้ยวปะแล่ม ๆ ชวนให้สงสัย เชื่อว่าหลายคนคงอยากรู้กันแล้วใช่ไหมว่าทำไม กาแฟมีรสชาติเปรี้ยว งั้นวันนี้เราจะพาทุกคนไปคลายข้อสงสัยเหล่านั้นกัน กาแฟมีรสชาติเปรี้ยว ได้อย่างไร? 1.สายพันธุ์กาแฟ | กาแฟมีรสชาติเปรี้ยว เหตุผลสำคัญที่ทำให้กาแฟมีรสชาติเปรี้ยวเพราะ ในเมล็ดกาแฟคั่วบดอุดมไปด้วยกรดที่ชื่อว่า Acidity ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้กาแฟมีรสชาติเปรี้ยว ส่วนใหญ่แล้วรสชาติเปรี้ยวที่เกิดขึ้นนี้จะพบได้ในสายพันธุ์กาแฟอราบิก้าเป็นหลัก เนื่องจากกาแฟอราบิก้ามีรสชาติที่เด่นชัดกว่าสายพันธุ์กาแฟอื่น ๆ 2. ระดับของกาแฟคั่วบด รู้ไหมว่าการคั่วเมล็ดกาแฟ ถือเป็นปัจจัยหลัก ๆ ที่ทำให้กาแฟมีรสชาติเปรี้ยว โดยกาแฟคั่วบดสามารถแบ่งระดับการคั่วได้ดังนี้ – เมล็ดกาแฟคั่วอ่อน เป็นอีกหนึ่งการคั่วกาแฟที่ยังคงรสชาติของกาแฟได้ดังเดิม เพียงแต่จะมีรสชาติที่เปรี้ยวปะแล่ม ๆ จึงเหมาะกับการนำมาชงเป็นกาแฟร้อน – เมล็ดกาแฟคั่วปานกลาง รสชาติของกาแฟจะมีความขมขึ้นมาอีกระดับ และมีความเปรี้ยวน้อยลง จึงเหมาะกับการนำมาชงเป็นกาแฟร้อนและกาแฟเย็น – เมล็ดกาแฟคั่วเข้ม สำหรับรสชาติกาแฟประเภทนี้ จะมีความขมที่สุดเมื่อเทียบกับอีก 2 ระดับ และไม่มีความเปรี้ยวลงเหลืออยู่เลย จึงเหมาะกับการนำมาชงเป็นกาแฟเย็น 3.วิธีการชงกาแฟ อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้กาแฟมีรสชาติเปรี้ยว […]
ข้อแตกต่างระหว่างกาแฟและ โอเลี้ยง

เวลาไปสั่งเครื่องดื่มตามร้านกาแฟโบราณ เพื่อน ๆ เคยสงสัยกันไหมว่าทำไมกาแฟดำกับ โอเลี้ยง ถึงมีสีเหมือนกัน จนบางทีก็แยกไม่ออกว่าอันไหนกาแฟดำอันไหนโอเลี้ยง วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ มาสำรวจความแตกต่างของกาแฟดำและโอเลี้ยงกัน ว่าทำไมเครื่องดื่ม 2 เมนูนี้ถึงมีรสชาติที่ไม่เหมือนกัน หากพร้อมแล้วตามมาดูกันเลย สำรวจความแตกต่างของกาแฟและ โอเลี้ยง 1.กาแฟดำ คืออะไร? อย่างที่เรารู้กันดีว่าอเมริกาโน่ หรือกาแฟดำ คือ กาแฟที่ไม่ใส่นมและน้ำตาล ซึ่งสามารถดื่มได้ทั้งแบบร้อนและแบบเย็น ที่สำคัญกาแฟดำหรืออเมริกาโน่ ถือเป็นหัวใจสำคัญของกาแฟแต่ละชนิดด้วย โดยวิธีการชงอเมริกาโน่จะใส่น้ำเอสเปรสโซ่ 1 ช็อต แล้วเติมน้ำร้อนตามลงไป แต่ถ้าใครมีเครื่องชงกาแฟก็สามารถใส่เมล็ดกาแฟสดได้เช่นกัน ส่วนอัตราส่วนของน้ำร้อนที่ใส่จะผสมเป็น 1:1 เพื่อไม่ให้รสชาติของกาแฟดำหรืออเมริกาโน่เจือจางเกินไป แต่หากใครชอบรสชาติเข้มข้นก็สามารถเพิ่มช็อตเอสโปรสโซ่ลงไปได้ 2.โอเลี้ยง คืออะไร? โอเลี้ยง ถือเป็นกาแฟโบราณยอดฮิตที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน “โอเลี้ยง” เป็นภาษาจีนแต้จิ๋ว ซึ่ง “โอ” แปลว่า ดำ ส่วนคำว่า “เลี้ยง” แปลว่า เย็น เมื่อนำทั้งสองคำมารวมกันจึงมีความหมายว่า เครื่องดื่มสีดำที่เย็น ในความจริงแล้วโอเลี้ยงก็มีต้นกำเนิดมาจากกาแฟเหมือนกัน เพียงแต่โอเลี้ยงจะใช้ผงกาแฟชงโบราณหรือผงโอเลี้ยง แทนการใช้ผงกาแฟคั่วบดทั่วไป ส่วนกรรมวิธีในการผลิตผงโอเลี้ยง คือ […]
ขจัดคราบกาแฟ เลอะเสื้อง่าย ๆ ได้ที่บ้าน

หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่ชอบทานกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ เชื่อว่าคุณคงเคยประสบปัญหาคราบกาแฟเลอะเสื้อผ้ากันแน่นอน ยิ่งถ้าเป็นเสื้อสีขาวสว่างก็ทำให้การขจัดคราบเป็นไปได้ยากขึ้น ในวันนี้เราจึงนำไอเท็มเด็ด ๆ ในการ ขจัดคราบกาแฟ ติดเสื้อมาฝากทุกคนกัน ไอเท็มเด็ด ๆ ขจัดคราบกาแฟ ให้อยู่หมัด “กาแฟ” เป็นเครื่องดื่มที่ช่วยเติมพลังให้กับร่างกายในทุก ๆ เช้าได้เป็นอย่างดี แต่หากคุณเผลอทำกาแฟหกใส่เสื้อ ก็อาจทำให้เสียความมั่นใจไปได้ทั้งวัน แถมเวลานำเสื้อไปซักก็ล้างออกได้ยาก วันนี้เราจึงรวบรวมวิธีการขจัดรอยเปื้อนจากคราบกาแฟมาให้เพื่อน ๆ ได้ลองไปทำตามกันดู เคล็ดลับที่ 1 แป้งข้าวเจ้าช่วย ขจัดคราบกาแฟ สำหรับประโยชน์ของแป้งข้าวเจ้า ไม่เพียงแต่นำมาประกอบอาหารเท่านั้น แต่ยังนำมาใช้ขจัดคราบกาแฟที่เลอะเสื้อได้ด้วย วิธีการง่าย ๆ ให้นำแป้งข้าวเจ้ามาถูบริเวณที่มีคราบกาแฟติดเสื้ออยู่ จากนั้นนำเสื้อลงไปซักในกะละมังแล้วขยี้อีกครั้งให้คราบกาแฟหลุดออกจากเสื้อ เคล็ดลับที่ 2 สบู่ผสมผงซักฟอกช่วยขจัดคราบกาแฟ อีกหนึ่งวิธีการขจัดคราบกาแฟติดเสื้อแบบง่าย ๆ นั่นคือ การนำสบู่และผงซักฟอกเทลงไปในกะละมัง แล้วนำเสื้อที่ติดคราบกาแฟลงไปแช่เป็นเวลา 15 นาที เพื่อให้คราบกาแฟที่เลอะเสื้อค่อย ๆ หลุดออก จากนั้นซักเสื้อได้ตามปกติ เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้คราบกาแฟที่เปื้อนเสื้อหลุดออกได้แล้ว เคล็ดลับที่ 3 ยาสีฟันช่วยขจัดคราบกาแฟ ยาสีฟันถือเป็นไอเท็มเด็ดที่ใช้ประโยชน์ได้สารพัด ไม่ว่าจะนำมาทำความสะอาดอุปกรณ์เครื่องใช้ หรือแม้แต่การนำมาขจัดคราบกาแฟที่เปื้อนเสื้อผ้า อย่างแรกให้เราเตรียมยาสีฟันและแปรงสีฟันให้พร้อม […]
4 สูตรกาแฟโบราณ ทำง่าย ๆ ได้ที่บ้าน

เมื่อพูดถึงกาแฟโบราณ เชื่อว่าหลาย ๆ คนอาจนึกถึงโอเลี้ยงกันใช่ไหม? แต่ในความจริงแล้วยังมี สูตรกาแฟโบราณ อีกหลายสูตรที่ทุกคนยังไม่รู้ ในวันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ย้อนวันวานไปกับเมนูกาแฟโบราณของไทย ที่มีอายุยืนยาวกว่าหลายร้อยปีกัน แอบกระซิบว่ารสชาติหอมเข้มข้นถึงใจมาก ๆ ถ้าพร้อมแล้วตามไปดูกันได้เลย ย้อนวันวานกับ สูตรกาแฟโบราณ ขึ้นชื่อของไทย ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นยุคที่ข้าวยากหมากแพง ทำให้เมล็ดกาแฟมีราคาสูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นพ่อค้ากาแฟจึงนำส่วนของพืชต่าง ๆ มาผสมลงในกาแฟ เพื่อเป็นการลดต้นทุนและลดปริมาณการใช้เมล็ดกาแฟลง นับแต่นั้นเป็นต้นมา กาแฟโบราณก็ถือกำเนิดขึ้นและได้รับความนิยมจนถึงทุกวันนี้ 4 วิธีสูตรกาแฟโบราณให้หอมเข้มถึงใจ สูตรที่ 1 โอเลี้ยง โอเลี้ยง เป็นหนึ่งในเมนูกาแฟโบราณ ซึ่งเกิดขึ้นจากชาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่อพยพมาอยู่ในกรุงศรีอยุธยา คำว่า “โอ” แปลว่า ดำ ส่วนคำว่า “เลี้ยง” แปลว่า เย็น เมื่อนำคำทั้งสองมารวมกันจึงมีความหมายว่า กาแฟดำใส่น้ำแข็ง สูตรกาแฟโบราณ 1.ผงกาแฟ 4 ช้อนโต๊ะ 2.น้ำตาลทราย 4 ช้อนชา 3.น้ำร้อน 1 ถ้วยตวง […]
เรื่องน่ารู้ของ ขั้นตอนการผลิตกาแฟ

อย่างที่เรารู้กันดีว่ากาแฟเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยเติมเต็มสมรรถภาพในการทำงานได้เป็นอย่างดี และด้วยเอกลักษณ์ที่หอมกรุ่นของเมล็ดกาแฟคั่วบด ทำให้กาแฟกลายเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตที่หลาย ๆ คนเทใจให้อย่างล้นหลาม แต่ทราบไหมว่ากว่าจะมาเป็นกาแฟแก้วโปรดของใครหลาย ๆ คนได้นั้น เมล็ดกาแฟต้องผ่านกระบวนการผลิตที่หลากหลายขั้นตอน และผ่านการคัดสรรเมล็ดกาแฟอย่างพิถีพิถัน ยิ่งเป็นเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพสูงเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีราคาที่สูงมากขึ้นเท่านั้น ในวันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปสำรวจ ขั้นตอนการผลิตกาแฟ กันก่อนเลย ขั้นตอนการผลิตกาแฟ ที่หอมกรุ่นชวนหลงใหล 1.การเก็บเกี่ยวผลกาแฟ รู้ไหมว่าเมล็ดกาแฟนั้นใช้เวลาในการปลูกถึง 3-5 ปี กว่าจะได้ผลผลิตที่งอกงาม และยังต้องรอเวลาเก็บเกี่ยวถึง 6-8 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่เพาะปลูก โดยปกติแล้วผลกาแฟจะเก็บเกี่ยวในช่วงเดือนกันยายน ยาวไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งการเก็บผลกาแฟที่ดีที่สุด คือ การใช้แรงงานคนเป็นหลัก เพราะในการเก็บแต่ละครั้งจำเป็นต้องเอามือปลิดผลที่แก่เต็มที่แล้วเท่านั้น เพื่อให้ได้ผลกาแฟที่มีคุณภาพตามความต้องการ และนำไปใช้ในขั้นตอนการผลิตกาแฟต่อไป 2.กระบวนการผลิตกาแฟด้วยวิธีแห้ง เมื่อได้ผลกาแฟที่สุกงอมได้ที่แล้ว เราจะนำเมล็ดเหล่านั้นไปตากแดดให้แห้ง แล้วนำมากะเทาะเอาเมล็ดกาแฟด้านในออกมา หากเราเก็บผลกาแฟเอาไว้นานจนเกินไป จะทำให้เมล็ดกาแฟมีสีเข้ม และเสี่ยงที่จะเกิดเชื้อราขึ้นในเมล็ดด้านในได้ แต่ถ้าเรานำเมล็ดกาแฟไปตากไว้บนถาดหรือลานซีเมนต์ จะช่วยให้เมล็ดกาแฟมีสีที่สม่ำเสมอ ซึ่งการนำกาแฟไปตากแดดจะช่วยไล่ความชื้นที่อยู่ในเมล็ดกาแฟให้ออกไปเพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรานั่นเอง หลังจากนั้นเราจะนำเมล็ดกาแฟดิบไปใช้ในขั้นตอนการผลิตกาแฟถัดไป 3.การบ่มกาแฟ ส่วนใหญ่แล้วการบ่มกาแฟ เป็นวิธีที่นิยมนำมาใช้กับกาแฟคุณภาพสูง ๆ ซึ่งจะช่วยให้กาแฟมีรสชาติที่หอมกรุ่น ทั้งยังช่วยลดความเปรี้ยวของกาแฟลงได้ด้วย แต่การบ่มกาแฟอาจต้องใช้ระยะเวลายาวนานถึง 3 […]